ในช่วงปลายทศวรรษ 1980 เมืองเนเปิลส์กลายเป็นศูนย์กลางของโลกฟุตบอล เพราะมีชายคนหนึ่งที่ชื่อว่า ดีเอโก้ มาราโดน่า ก้าวเข้ามาเปลี่ยนทุกอย่าง ทั้งในสนามและในหัวใจของคนทั้งเมือง

ก่อนหน้ามาราโดน่าจะมาถึง นาโปลีคือทีมที่ถูกมองข้ามในวงการฟุตบอลอิตาลี สโมสรจากภาคใต้ที่ถูกเย้ยหยันจากทีมใหญ่ทางตอนเหนืออยู่เสมอ แต่เมื่อซูเปอร์สตาร์ชาวอาร์เจนติน่ารายนี้สวมเสื้อฟ้าของนาโปลี ทุกสายตาเริ่มหันกลับมามอง และทุกหัวใจเริ่มมีความหวัง

ฤดูกาล 1986/87 คือจุดเปลี่ยนครั้งประวัติศาสตร์ นาโปลีเดินหน้าคว้าแชมป์กัลโช่ เซเรียอา ได้เป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 60 ปีของสโมสร ความสำเร็จนั้นไม่ใช่แค่ถ้วยรางวัล แต่มันคือ “ศักดิ์ศรี” ของคนเนเปิลส์ทั้งเมือง ที่เคยถูกดูถูกมานาน

คืนที่ได้แชมป์ เมืองทั้งเมืองสว่างไสว ผู้คนหลั่งไหลออกมาฉลองตามท้องถนน เสียงร้องเพลง “โอเล่ นาโปลี” ดังไปทั่ว เสียงแตรรถสะท้อนก้องทั่วอ่าวเนเปิลส์ แทบไม่มีใครหลับในคืนนั้น เพราะทุกคนรู้ว่า นี่คือคืนที่ความฝันกลายเป็นจริง

มาราโดน่ากลายเป็นมากกว่านักฟุตบอล เขากลายเป็นสัญลักษณ์ของความหวัง เป็นภาพแทนของความภูมิใจของคนเมืองใต้ และเป็นตำนานที่ตราตรึงในหัวใจแฟนบอลทั่วโลกมาจนถึงทุกวันนี้

“คืนนั้น นาโปลีทั้งเมืองไม่หลับ” ไม่ใช่แค่คำพูด แต่คือเรื่องจริงที่บันทึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ลูกหนังตลอดกาล



แอสตัน วิลล่า ยุคเอเมรี่ สร้างเส้นทางทีมลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก

การเดิมพันครั้งใหม่ของ 'ผึ้งพิฆาต': เบรนท์ฟอร์ด แต่งตั้ง คีธ แอนดรูว์ส โค้ชลูกนิ่ง สานต่อปรัชญา "คนใน"



Post a Comment

أحدث أقدم